วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

Sex Tape : หนัง commedy ที่ดูแล้ว ไม่ขำ แต่ สยอง (ประเด็นสิทธิส่วนบุคคลโดยไทยไพรเวซี่)


หนัง Sex tape เข้าฉายในไทยช่วง กย 2557



   เนื้อหาหลักๆ มีนิดเดียว
    ง่ายๆ สั้นๆ  แต่สะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันของคนหลายคน
        คือ  คู่รักถ่ายคลิปตั้งใจไว้ดูเอง  แล้วเกิดหลุดออกไป
           แค่นั้นจริงๆ 

เรื่องพื้่นๆ ดาษดื่น
ไม่ได้แหวกแนวหรือคาดไม่ถึง
  แต่เป็นเรื่องพื้นๆที่ไทยไพรเวซี่เห็นว่ามีน่าสนใจอย่างยิ่ง
   เนื่องจากมันสะท้อนความเป็นจริงของสภาพสังคมสารสนเทศปัจจุบัน



 
มีภาพและฉากการร่วมเพศแน่นอน
       แต่ไทยไพรเวซี่  ไม่มีมุมมองว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังลามก
         แม้ว่าเจ๊คาเมรอน ดิเอซ ผู้ซึ่งอายุ 40 เศษแล้ว จะมีบทเปลือยๆ
            แน่นอน  ต้องยอมรับว่าหุ่นเจ๊ยังคงดูดีกว่าคนวัยนั้นโดยทั่วไป
               อีกทั้งมีการกางตำราหนังสือรวมท่าเซ็กซ์มาประกอบการถ่ายคลิป
               แต่ความอนาถในชะตากรรมของคู่รักที่น่าสงสาร
                    รวมทั้งมุขตลกเสียดสีที่ขำบ้าง และขำไม่ออกบ้าง
                         และข้อคิดเรื่องไพรเวซี่ง่ายๆแต่กระแทกใจ
                         มันแรงกว่า
                     จนทำให้ยากจะกล่าวได้ว่าหนังเรื่องนี้จะกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของผูู้ชมไปได้


มีการแบล็คเมล์แน่นอน ขาดไม่ได้
   แต่ไม่ใช่คู่รักแบล็คเมล์กันเอง
  คนแบล็คเมล์กลายเป็นบุคคลที่แทบจะคาดไม่ถึง


แต่ข้างต้นที่กล่าวมา นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ไทยไพรเวซี่สนใจ
       
   ที่น่าสนใจคือดังนี้



1.หนังค่าย Sony  แต่ทำไมดูเหมือนใจความหลักจกลายเป็นคล้ายโฆษณาผลิตภัณฑ์และบริการของ Apple  ไปได้  
  แกนหลักในประเด็นทางเทคโนโลยีต้นเหตุของเรื่องราวก็มาจากผลิตภัณฑ์ของ Apple  ทั้ง Ipad , Icloud  คอมตั้งโต๊ะก็ยังเป็นเครื่องแมค    
  ความเห็นส่วนตัวในมุมมองของไทยไพรเวซี่คิดว่า น่าจะเป็นการที่หนังออกแนวประชดหรือเสียดสีความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลในระบบ Icloud , Ipad   ที่เป็นเหตุให้เกิดคลิปหลุดและรั่วจนเกิดเหตุมั่วๆและสับสนไปตลอดเรื่องราว 
จากที่เคยพูดถึงมาแล้วกรณีภาพดาราต่างประเทศหลุดหรือมีการนำขึ้นมาจากระบบคลาวด์   ทั้งที่เจ้าตัวเจ้าของข้อมูลหรือภาพนั้นเองแทบจะลืมไปแล้วว่าเคยมีภาพดังกล่าวอยู่ 



2.  ประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับการแพร่กระจายของข้อมูลโดยไม่ได้เจตนา  
คู่รักได้ใช้ IPad ถ่ายคลิป ขณะมีกิจกรรมทางเพศไว้  
  จากนั้นนางเอกบอกให้ลบ
พระเอกบอกว่าลืม
 แต่จริงๆแล้วกะจะเก็บไว้ระลึกถึงความหลังหรืออะไรแล้วแต่
สรุปง่ายๆ ก็คือ ลืมลบ
  (ถึงจะลบแล้ว ก็ยังมีประเด็นอยู่ดีว่า
 ข้อมูลไปอยู่ในระบบคลาวด์แล้วหรือไม่ จะลบได้จริงหรือไม่ อีกอยู่ดี
แต่ถึงลืมลบ คลิปมันก็อยู่ในเครื่อง IPad  เครื่องนั้น
คู่รักก็ไม่ได้โพสต์หรือแชร์ต่อ
  เพียงแต่ พระเอกได้ติดตั้ง Application อะไรบางอย่าง ที่ทำหน้าที่ ซิงค์ข้อมูล (จริงๆตามท้องเรื่องแกสะสมเพลงและจะซิงค์ข้อมูลเพลงเป็นหลัก)  
  ทำให้ คลิปดังกล่าวไปปรากฏในเครื่อง IPad ที่พระเอกเคยใช้อีกหลายๆเครื่อง 
 
  ซึ่งหลายๆเครื่องเหล่านั้น พระเอกผู้ใจดีและชอบซื้อเคริ่องใหม่ๆใช้  ได้บริจาค แจกจ่าย ให้เพื่อนพ้องไปใช้แล้ว  (รวมทั้งแม่ยาย และบุรุษไปรษณีย์
หนังจึงกลายเป็นผจญภัยตามล่าเก็บ IPad คืนมา 
จะมี Application อย่างนั้นจริงหรือไม่  หรือเป็นมุขที่ค่าย sony สร้างมาเสียดสี apple  ก็ไม่แน่ใจ
แต่ที่แน่ๆก็คือ  การ ซิงค์ข้อมูลของค่าย apple มีอยู่แน่ๆ 
ซิงค์หรือ Sync ย่อมาจาก Synchronize หรือการ "ถ่ายโอนข้อมูล"
และมันเชื่อมโยงกับ ระบบ คลาวด์ 
 (ที่ตัวละครตามท้องเรื่องก็ยังบอกวา่ ไม่แน่ใจว่าคืออะไร ด้วยซ้ำ)

คนที่ใช้ IPad , IPhone ก็คงทราบว่า  สามารถ ซิงค์ ภาพจำนวนมากที่ถ่ายตัวเองไว้
 ลงไปในคอมฯ โดยไม่ต้องเสียบสายอะไรให้วุ่นวาย โดยผ่าน “Icloud”    ซึ่งใช้ Username และ Password อันเดียวกับที่เราสมัครไว้ใน ipad นั่นแหละ 
เราสามารถเลือกข้อมูลที่จะ ซิงค์ ได้ เช่น email  contact calendar bookmarks และแน่นอนที่เกี่ยวข้องกับไพรเวซี่ที่มีปัญหาบ่อยๆก็คือภาพ  จาก photo stream
                จะเห็นได้ว่า ข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะภาพจำนวนมาก สามารถ ซิงค์หรือถ่ายโอน โดยเราไม่ต้องมีที่เก็บข้อมูล เนื่องจากเก็บไว้ที่ icloud  และสามารถเชื่อมโยงถ่ายโอนไปยังคอมหรือกลับไปยังพวก IPad IPhone ก็ได้  
         ไม่อาจเถียงได้ว่ามันไม่สะดวก
แต่ ในความสะดวกนี่เอง  
 ก็ไม่อาจเถียงได้เช่นกันว่า มันมีประเด็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลและความปลอดภัยของข้อมูลของเราอยู่ด้วย
และนี่ก็เป็นประเด็นหลักและข้อน่าคิดของหนังเรื่องนี้


เราอาจไม่รู้สึกถูกกระตุ้นอารมณ์เพศด้วยการแก้ผ้าของนางเอกในท่าตีลังกาจากโซฟาลงมาออนท๊อปบนตัวพระเอกที่แก้ผ้านอนรอด้วยความหวาดเสียวอยู่บนพื้น   

 และเราอาจขำไม่ออกอีกเช่นกันกับมุขลักษณะดังกล่าว เพราะมันรู้สึกสยองมากเกินกว่าจะเซ็กซี่ 
เราอาจขำไม่ออกกับการหักมุมของหนังที่เด็กประถมกลายเป็นผู้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลมาแบล็คเมล์ผู้ใหญ่ 
 เพราะเราอาจรู้สึกสะท้อนสภาพวัตถุนิยมและประเด็นคุณธรรมของเยาวชนของชาติ   
มันออกจะน่ากลัวมากด้วยซ้ำกับผลที่จะตามมาต่อไปกับสภาพสังคมในยุคที่เด็กเหล่านี้โตขึ้น

 แต่ที่ไทยไพรเวซี่ขำไม่ออกที่สุด ณ ตอนนี้คือ
 ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล จำนวนมาก ที่เราอัพสู่ คลาวด์” กันอยู่แทบทุกวินาที   เพียงเพราะว่า ....มันสะดวกดี 

 ฮา ไม่ออก แต่ สยองลึกๆ